วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

แบบทดสอบ เรื่อง อิเล็กโทรไลต์

1.การป้องกันการผุกร่อนของอุโมงค์ หรือท่อเหล็กใต้ดิน กระทำได้โดยการต่อท่อเหล็ก (A) เข้ากับสารชนิดอื่น (B) ดังรูป






ข้อความใดต่อไปนี้ผิด
1. โลหะ A เป็นตัวรีดิวซ์ที่ยากกว่า B
2. เมื่อเวลาผ่านไปมวลของ B อาจลดลง
3. A ทำหน้าที่เป็นขั้วลบ เกิดปฏิกิริยารีดักชัน
4. B ให้อิเล็กตรอนได้ง่ายกว่า A , B จึงทำหน้าที่เป็นแอโนด

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 3
คำอธิบาย
จากหลักการป้องกันการผุกร่อน B จะต้องให้อิเล็กตรอนได้ดีกว่า
ซึ่ง B จะต้อง - มีค่า น้อยกว่า A
-ให้อิเล็กตรอนได้ง่ายกว่า A
-เป็นตัวรีดิวซ์ที่ดีกว่า A
-เป็นแอโนด
เมื่อเวลาผ่านไป B จะผุกร่อนแทน A มวลของ B จะลดลง ดังนั้นข้อ 1, 2, 4 จึงถูกต้อง
ฺ• ฺ ข้อ 3 จึงเป็นข้อความที่ผิด เพราะ A เป็น Fe ไอออนของ A ถึงจะเกิดปฏิกิริยารีดักชัน

2.ข้อใดต่อไปนี้ อธิบายเกี่ยวกับแบตเตอรี่ได้ถูกต้อง
1. ขณะจ่ายไฟ ค่าศักย์ไฟฟ้าของแต่ละเซลล์ในแบตเตอรี่มีค่าคงที่
2. ขณะจ่ายไฟ สารที่เข้าทำปฏิกิริยาเป็นสารชนิดเดียวกัน
3. ตัวรีดิวซ์มีการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชันเท่ากับ 4
4. ระดับความเข้มข้นของกรดมีผลต่อศักย์ไฟฟ้าของเซลล์

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 4
คำอธิบาย
ปฏิกิริยาการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ เป็นดังนี้
แอโนด :

แคโทด :

จากปฏิกิริยาการจ่ายไฟสรุปได้ดังนี้
1) ขณะจ่ายไฟจะเกิด PbSO4(s) ที่แอโนดแลพแคโทด ทำให้ค่าศักย์ไฟฟ้าของแต่ละเซลล์ในแบตเตอรี่ลดลง
2) ขณะจ่ายไฟ สารที่เข้าทำปฏิกิริยา คือ Pb , PbO2 , H2SO4 เป้นสารคนละชนิดกัน
3) ตัวรีดิวซ์ จะต้องเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน คือ

3.เปรียบเทียบ เซลล์กัลป์วานิก และเซลล์อิเล็กโทรไลต์ โดยพิจารณาข้อสรุปต่อไปนี้
1.ไอออนบวกจะเคลื่อนที่เข้าหาขั้วลบ และไอออนลบจะวิ่งเข้าหาขั้วบวกเสมอในเซลล์ทั้งสองชนิด
2.ในเซลล์กัลป์วานิก ไอออนบวกจะวิ่งไปที่แอโนด และไอออนลบจะวิ่งไปที่แคโทดในเซลล์อิเล็กโทรไลต์ ไอออบวกและลบจะวิ่งไปที่แคโทดและแอโนด ตามลำดับ
3.ในเซลล์กัลป์วานิก ขั้วของแอโนดและแคโทดจะเป็นขั้วลบ และบวกตามลำดับส่วนในเซลล์อิเล็กโทรไลต์ แอโนด คือขั้วบวก และแคโทดคือขั้วลบ
4.อิเลคตรอนไหลจาก แอโนดไปแคโทด เมื่อต่อสายภายนอกของเซลล์กัลป์วานิก ส่วนในเซลล์อิเล็กโทรไลต์ อิเลคตรอนมาจาก แบตเตอร์เข้าสู่ขั้วแอโนด
ข้อสรุปใดถูก
ก. 3เท่านั้น
ข. 4เท่านั้น
ค. 1,4 เท่านั้น
ง.1,3,4 เท่านั้น
4.ทองแดงที่ได้จากการถลุงสินแร่ เมื่อทำให้บริสุทธิ์โดยใช้หลักการของอิเลคโทรไลติก ข้อความต่อไปนี้ข้อให้ผิด
ก.ใช้ทองแดงถลุงเป็นแอโนดและทองแดงบริสุทธิ์เป็นแคโทด
ข.สารเจือปนในทองแดงถลุงควรมีความสามารถเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดซ์แตกต่างจากทองแดงมากพอสมควร
ค.สารเจือปนในทองแดงถลุงที่ถูกออกซิไดซ์ยากกว่าทองแดงจะตกตะกอนอยู่ก้นภาชนะเซลล์
ง.สารละลายในเซลล์เป็นอิเลคโทรไลต์อะไรก็ได้ เช่น CuSo4 ZnSo4 เป็นต้น

5.สิ่งใดๆม่ควรทำในการชุบโลหะด้วยไฟฟ้า
ก.ใช้โลหะที่จะชุบเป็นแคโทดหรือขั้วลบของเซลล์
ข.ใช้ของที่จะชุบเป็นแคโทดหรือขั้วลบของเซลล์
ค.ในสารละลายอิเลคโทรไลต์มีไอออนของโลหะชุบ
ง.ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง

6.การกระทำข้อใดไม่ถูกต้อง เมื่อต้องการชุบแท่งเหล็กด้วยโคเมี่ยม
ก. ใช้โลหะโครเมียมเป็นแอโนดหรือเป็นขั้วบวก
ข.ใช้แท่งเหล็กเป็นแคโทดหรือเป็นขั้วลบ
ค.สารละลายอิเลคโตรไลต์ต้องมีไอออนของโครเมี่ยม
ง.ใช้โลหะโครเมี่ยมเป็นแคโทดหรือเป็นขั้วลบ

7.พิจารณาข้อความเกี่ยวกับการชุบช้อนสังกะสีด้วย โลหะเงินโดยวิธีอิเลคโทรลิซิส
1. สาละลายอิเลคโตรไลต์ที่ใช้ คือ Ag’
2.ช้อนสังกะสีเป็นแคโทด ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น คือ Ag + e → Ag
3.ช้อนสังกะสีเป็นแอโนด โดยนำช้อนสังกะสีต่อเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่
4.แท่งเงินเป็นแอโนด และต่อแท่งเงินเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่
ข้อสรุปใดถูก
1 และ2 เท่านั้น
2 และ 4 เท่านั้น
1,2 และ 3
1,2และ 4

8.ข้อใดต่อไปนี้ อธิบายเกี่ยวกับแบตเตอรี่ได้ถูกต้อง
ก.ขณะจ่ายไฟ ค่าศักย์ไฟฟ้าของแต่ละเซลล์ในแบตเตอรี่มีค่าคงที่
ข.ขณะจ่ายไฟ สารที่เข้าทำปฏิกิริยาเป็นสารชนิดเดียวกัน
ค.ตัวรรีดิวช์มีการเปลี่ยนแปลงค่าเลขออกซิเดชันเท่ากับ 4
ง.ระดับความเข้มข้นของกรดมีผลต่อศักย์ไฟฟ้าของเซลล์

9.ผลที่ได้รับจากเซลล์เชื้อเพลิง H2 – O2
ก.พลังงานไฟฟ้า และความร้อน
ข.พลังงานไฟฟ้า น้ำบริสุทธิ์ และอากาศที่ไม่เป็นพิษ
ค.พลังงานไฟฟ้า คามร้อน และน้ำบริสุทธิ์
ง.พลังงานไฟฟ้า เพียง อย่างเดียว

10.ข้อความต่อไปนี้ ข้อใดไม่เกี่ยวกับเรื่องเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน-ออกซิเจน
ก.เกิดปฏิกิริยารีดอกซ์
ข.เปลี่ยนพลังงานปฏิกิริยาเคมีเป็นพลังงานไฟฟ้า
ค.มีการผ่านสารตั้งต้นที่ขั้วแคโทดและแอโนดอย่างสม่ำเสมอ
ง.ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นที่ขั้วแคโทดจะให้ก๊าซไฮโดรเจน และที่ขั้วแอโนดให้ก๊าซออกซิเจน


เฉลย
3.ก
4.ง
5.ก
6.ง
7.ข
8.ง
9.ค
10.ง


.

แบบฝึกหัดวิชาเคมี เรื่องธาตุและสารประกอบ

1.การถลุงแร่ในข้อใดที่มีหลักการในการถลุงเหมือนกัน
ก. สังกะสี
ข. แคดเมียม
ค. ดีบุก
ง. พลวง
1.ก. และ ข.
2.ข. และ ค.
3.ก. ข. และ ง.
4.ก. ค. และ ง.
เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 4
หลักการในการถลุงแร่ดีบุก พลวงและสังกะสี เหมือนกันคือ












ส่วนแร่แคดเมียมเกิดปฏิกิริยาต่างจากแร่ทั้งสามข้างต้น




2.สมการที่เกี่ยวข้องกับการถลุงแร่พลวง มีดังนี้








พิจารณาข้อความต่อไปนี้
ก. แร่พลวงในธรรมชาติ คือ ก่อนนำไปถลุงต้องเปลี่ยนให้เป็นออกไซด์ก่อน
เรียกกระบวนการนี้ว่า ย่างแร่ (สมการ 1)
ก. ออกไซด์ของพลวงถูก รีดิวซ์เป็นพลวง (สมการ 3)
ข. การเผาถ่านหินทุกครั้งจะได้ (สมการ 2)
ค. ถ้าแร่พลวงไม่บริสุทธิ์จะต้องใช้ มาดึงเอาสารปนเปื้อนออกมาเป็นตะกอน

ข้อใดถูกต้อง
1.ก. ข. และ ค.
2.ข. ค. และ ง.
3.ก. ข. และ ง.
4.ก. ค. และ ง.

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 3
พิจารณาดังนี้
ข้อ ก. ถูก กระบวนการย่างแร่เป็นการทำให้สารประกอบซัลไฟต์อยู่ในรูปของสารประกอบออกไซด์ก่อนคือ











ข้อ ค. ผิด เพราะการเผาถ่านหิน ถ้ามี O2 มากพอจะเกิด CO2
ดังนี้



ข้อ ง. ถูก เพราะในการถลุงพลวงมีการเติม


ลงไปด้วย เพื่อช่วย
กำจัดสารปนเปื้อนให้แยกออกมาเป็นกากตะกอน

3.อุตสาหกรรมในข้อใดไม่ได้ก่อให้เกิดมลพิษหรือผลกระทบตามที่ระบุ
1.อุตสาหกรรมการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์มีการแพร่กระจายของดินเค็ม
2.อุตสาหกรรมการผลิตสังกะสีมีกากแร่ที่มีแคดเมียม
3.อุตสาหกรรมการผลิตแทนทาลัมจะเหลือกากที่เป็นสารกัมมันตรังสี
4.อุตสาหกรรมผลิตเซรามิกส์มีสารปรอทรั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำ

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 4
คำอธิบาย

เพราะอุตสาหกรรมเซรามิกส์ไม่ได้ใช้สารปรอท แต่มีสารประกอบตะกั่วเป็นส่วนผสมในน้ำยาเคลือบ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะมลพิษได้
ข้อ 1. ถูกต้อง เพราะการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์ ใช้สารละลาย NaCl เป็นวัตถุดิบ
ข้อ 2. ถูกต้อง เพราะในการถลุงสังกะสี สังกะสีที่ได้ไม่บริสุทธิ์ มักมีแคดเมียมปนอยู่ด้วย
ข้อ 3. ถูกต้อง เพราะอุตสาหกรรมผลิตแทนทาลัมเหลือกากที่เป็นสารกัมมันตรังสีปนอยู่ด้วย

4.ในการผลิตเกลือสินเธาว์ ข้อใดไม่ใช่ปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม
1.ไม่รู้ ไม่สนใจมีเกลือใช้ก็พอ
2.ต้องใช้ปริมาณน้ำจืดจำนวนมาก ทำให้ขาดแคลนน้ำจืด
3.เกลือสินเธาว์ขาดธาตุไอโอดีนทำให้ไม่เหมาะที่จะใช้บริโภค
4.เกิดยุบตัวของพื้นดินบริเวณที่มีการผลิตเกลือจากน้ำเกลือบาดาล และชั้นเกลือหิน
เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 3
คำอธิบาย

เพราะการขาดธาตุไอโอดีน ไม่ถือว่าเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม
ส่วนข้ออื่น ๆ จัดว่าเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น

5.การใช้ภาชนะเซรามิกส์ใส่อาหารที่เป็นกรดหรือเบส กรดและเบสจะละลายสารที่เคลือบติดปนมากับอาหารได้ สารดังกล่าวเป็นสารในข้อใด
1. เซอร์โคเนียมไดออกไซด์
2. สังกะสี
3. ตะกั่ว
4. แคดเมียม

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 3
คำอธิบาย

เพราะการใช้ภาชนะเซรามิกส์ใส่อาหารที่เป็นกรดหรือเบส กรดและเบสอาจจะละลายสารที่เคลือบติดปนมากับอาหารได้ สารนั้นคือตะกั่ว (Pb)

6.โลหะหนักมีอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตมาก จึงต้องใช้อย่างระมัดระวัง ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ที่เจ้าของโรงงานจำเป็นต้องกระทำเพื่อลดอันตรายจากโลหะหนัก
1. ทำให้โรงงานมีระบบการถ่ายเทอากาศที่ดี
2. มีการตรวจสุขภาพคนงานเป็นระยะ ๆ
3. จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสมให้กับคนงาน
4. ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 2
คำอธิบาย

เพราะการตรวจสุขภาพคนงานเป็นระยะ ๆ นั้น จะต้องเป็นหน้าที่ของแพทย์ ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าของโรงงาน

7.น้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดผลในข้อใดต่อไปนี้ ข้อใดไม่เอื้อต่อการยังชีพของสิ่งมีชีวิตในน้ำมากที่สุด
1. มีแบคทีเรียมาก
2. มีอุณหภูมิสูง
3. มีออกซิเจนสูง
4. มีโลหะหนัก

เฉลยคำตอบ ตัวเลือก 2
คำอธิบาย

เพราะออกซิเจนในน้ำมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการยังชีพของสิ่งมีชีวิต ถ้าน้ำขาดออกซิเจนหรือมีออกซิเจนอยู่ในปริมาณน้อยมาก สิ่งมีชีวิตอาจตายได้ ซึ่งการละลายของแก๊สออกซิเจนในน้ำจะแปรผกผันกับอุณหภูมิ ดังนั้นถ้าน้ำมีอุณหภูมิสูงเกินไป สิ่งมีชีวิตในน้ำอาจตายได้ เนื่องจากออกซิเจนมีไม่เพียงพอ

8.ข้อใดอาจช่วยลดจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังได้
1. ลดปริมาณฟอตเฟสในผงซักฟอก
2. ลดปริมาณตะกั่วในน้ำมันเบนซิน
3. ลดจุดเดือดของน้ำมันดีเซล
4. ลดการใช้สารฟลูออโรคาร์บอนในการเป็นสารขับดันในกระป๋องสเปรย์

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 4
คำอธิบาย

เพราะสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน หรือ CFC จะทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศ เนื่องจากอะตอมของคลอรีนที่หลุดออกจากโมเลกุลของ CFC เพียง 1 อะตอม สามารถก่อปฏิกิริยาลูกโซ่ทำลายโอโซนได้ถึง 100,000 โมเลกุล เมื่อชั้นโอโซนในบรรยากาศถูกทำลายรังสีอัลตราไวโอเลต สามารถทะลุผ่านมายังผิวโลกได้มากขึ้น จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ทำให้มีผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังและต้อกระจกเพิ่มขึ้น
ดังนั้น การลดการใช้สารฟลูออโรคาร์บอน จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังได้

9.HF ซึ่งเป็นสารพิษ ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยชนิดใด
1. ปุ๋ยยูเรีย
2. ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต
3. ปุ๋ยซุปเปอร์ฟอสเฟต
4. ปุ๋ยโพแทส

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 3
คำอธิบาย







10.ข้อใดไม่ใช่อุตสาหกรรมเซรามิกส์
1. อุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์
2. อุตสาหกรรมซีเมนต์
3. อุตสาหกรรมแก้ว
4. ไม่มีข้อถูก

เฉลยคำตอบ ตัวเลือกที่ 4
คำอธิบาย

เพราะเซรามิกส์ หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากดิน โดยมีวัตถุดิบดังนี้
ดินขาว , ดินเหนียว , เฟลด์สปาร์ , ควอตซ์ , ทัลด์ , หินปูน ,
ดังนั้นทุกข้อล้วนเป็นอุตสาหกรรมเซรามิกส์ทั้งสิ้น